ยินดีต้อนรับทุกท่าน.....ที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของ สมุนไพรไทย

สมุนไพร หมายถึง พืชที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ การใช้สมุนไพรสำหรับรักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ นี้ จะต้องนำเอาสมุนไพรตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมรวมกันซึ่งจะเรียกว่า "ยา" ในตำรับยา นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่ธาตุอีกด้วย เราเรียกพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบของยานี้ว่า "เภสัชวัตถุ"พืชสมุนไพรบางชนิด เช่น เร่ว กระวาน กานพลู และจันทน์เทศ เป็นต้น เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมและมีรสเผ็ดร้อน ใช้เป็นยาสำหรับขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ พืชเหล่านี้ถ้านำมาปรุงอาหารเราจะเรียกว่า "เครื่องเทศ" ในพระราชบัญญัติยาฉบับที่3 ปีพุทธศักราช 2522 ได้แบ่งยาที่ได้จากเภสัชวัตถุนี้ไว้เป็น 2 ประเภทคือ ยาแผนโบราณ และยาสมุนไพร

ปัจจุบันมีผู้พยายามศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนายาสมุนไพรให้สามารถนำมาใช้ในรูปแบบที่สะดวกยิ่งขึ้น เช่น นำมาบดเป็นผงบรรจุแคปซูล ตอกเป็นยาเม็ด เตรียมเป็นครีมหรือยาขี้ผึ้งเพื่อใช้ทาภายนอก เป็นต้น ในการศึกษาวิจัยเพื่อนำสมุนไพรมาใช้เป็นยาแผนปัจจุบันนั้น ได้มีการวิจัยอย่างกว้างขวาง โดยพยายามสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรเพื่อให้ได้สารที่บริสุทธิ์ ศึกษาคุณสมบัติทางด้านเคมี ฟิสิกส์ของสารเพื่อให้ทราบว่าเป็นสารชนิดใด ตรวจสอบฤทธิ์ด้านเภสัชวิทยาในสัตว์ทดลองเพื่อดูให้ได้ผลดีในการรักษาโรคหรือไม่เพียงใด ศึกษาความเป็นพิษและผลข้างเคียง เมื่อพบว่าสารชนิดใดให้ผลในการรักษาที่ดี โดยไม่มีพิษหรือมีพิษข้างเคียงน้อยจึงนำสารนั้นมาเตรียมเป็นยารูปแบบที่เหมาะสมเพื่อทดลองใช้ต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลูกประคบสมุนไพร



              ลูกประคบ คือ การนำสมุนไพรหลายๆ ชนิดมาห่อรวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นยาสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งเมื่อถูกความร้อนจะระเหยออกมากลายเป็นกลิ่น  เช่น ไพล ขมิ้นชัน  ขมิ้นอ้อย ตะไคร้ มะกรูด การบูร โดยเราสามารถนำเอาสมุนไพรเหล่านั้นมาหั่น ย่อยอย่างหยาบๆ  จากนั้นห่อด้วยผ้าดิบ แล้วนำไปผ่านกระบวนการความร้อน ด้วยวิธีการนึ่งไอน้ำหรือใส่ไมโครเวฟ เพื่อให้สมุนไพรละลายออกมาเป็นตัวยา  ซึมเข้าใต้ผิวหนังตามร่างกาย ถ้าใช้ไมโครเวฟจะต้องพรมน้ำให้ชุ่มมากกว่าการนึ่งด้วยไอน้ำ

            สมัยโบราณจะใช้เหล้าขาวไปพรมด้วย เพราะเหล้าขาวเป็นตัวนำยา (หรือกษัยยา) เป็นการช่วยทำให้สมุนไพรละลายและซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น การนึ่งระยะแรกจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หากใช้ไมโครเวฟในการอุ่นลูกประคบ ห้ามพรมด้วยเหล้าขาวเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
            ลูกประคบ เป็นวิธีการบำบัดรักษาของแพทย์แผนไทย  ซึ่งสามารถนำไปใช้ควบคู่กับการนวดไทย  โดยใช้การประคบหลังการนวดหรือประคบพร้อมนวดร่างกาย



            ขั้นตอนการเตรียมสมุนไพร


              "ลูกประคบสมุนไพร" ในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงลูกประคบอย่างที่คุณเคยรู้จัก  เพราะเรามีสูตรต่างๆ ที่น่าสนใจ สะดวกต่อการนำไปใช้และการต่อยอดทางธุรกิจ นอกจากนี้ คุณจะได้ทราบถึง ประโยชน์และสรรพคุณของสมุนไพร ที่เรานำมาห่อรวมกันเป็นลูกประคบ

การห่อลูกประคบ


             การห่อลูกประคบ เป็นการนำสมุนไพรนานาชนิดมาห่อรวมกันเป็นรูปทรงกลม เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ อันยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างไม่ซ้ำใคร

การนำลูกประคบไปใช้งาน


              เมื่อเรานำลูกประคบไปผ่านความร้อนและเอามาประคบตามร่างกาย จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยและเคล็ดขัดยอก  ลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ช่วยให้พังผืดยืดตัว เป็นคุณสมบัติของลูกประคบ ที่เชื่อถือกันมาช้านาน

การจัดทำลูกประคบเพื่อการส่งออก              


                "ลูกประคบ" จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าส่งออก ที่ผู้ประกอบการหลายรายมั่นใจว่า "เส้นทางสู่ตลาดโลกไม่ไกลเกินเอื้อม"  รับฟังคำแนะนำดีๆ จากนักวิชาการผู้คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ มากว่า 10 ปี ถึงการเตรียมความพร้อม ก่อนออกสู่ตลาดโลกและประสบการณ์ตรงขอผู้ส่งออกลูกประคบรายใหญ่ของประเทศ ถึงกระแสการส่งออกในขณะนี้


ที่มา       http://www.tistr.or.th/spa/herb/index.html  

อาหารเสริมบำรุงสายตา กับสุดยอด ผัก ผลไม้


            ผู้หญิงหลาย ๆ คนในสมัยนี้อาจจะมีปัญหาด้านความล้าของสายตาจากการทำงานต่าง ๆ จนเป็นเหตุ ให้อาจจะมีปัญหาด้านสายตา หรือ ปัญหาตาแข็ง ตาแห้ง หรือ แม้แต่ดวงตาเกิดอักเสพได้ง่าย ดังนั้นวันนี้เราขอแนะนำอาหารเพื่อการบำรุงสายตาให้สดใสสุขภาพดีกับเหล่าสุดยอดผักและผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงสายตากัน


           ผักเคล หรือ กะหล่ำปลีชนิดสีเขียวเข้ม , บร็อคโครี่ ช่วยบำรุงสายตาเพราะมีคุณประโยชน์คือให้วิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตาให้มีประกายสดใส และ มีเบต้าแคโรทีน ช่วยในการต้านโรคมะเร็งอีกด้วย อีกทั้งยังมีวิตามินซี และเส้นใยอาหารช่วยในการป้องกันโลหิตจาง เรียกว่าเป็นผักสารพัดประโยชน์จริง ๆ


           แคนตาลูป และ น้ำเต้า นั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมถอยของเลนส์ตา ช่วยในการบำรุงสายตา และยังป้องกันการเกิดโรคต้อกระจกได้อีกด้วย


           ถั่วสีน้ำตาลแดง นั้นพร้อมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยในการบำรุงสายตา อีกทั้งวิตามินเอก็เป็นส่วนช่วยปกป้องเยื่อชั้นในของลูกตา


           ส้ม มะเขือเทศ และพริกหวาน นั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจก อีกทั้งช่วยในการไหลเวียนเลือดในดวงตานับว่ามีประโยชน์ช่วยในการบำรุงสายตาเป็นอย่างยิ่งนับเป็นอีกตัวเลือกที่ดีจริง ๆ

อาหารเสริมบำรุงสายตากลุ่มธัญพืช
            เหล่าธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย พวกข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง งา ข้าวสาลี ข้าวโอต ข้าวบาเล่ห์ ที่อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินบีรวม แร่ธาตุต่างๆ และใยอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยปกป้องการเสื่อมสภาพของเซลล์ เสริมสร้างระบบประสาทและเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรงสมบูรณ์

             จากงานวิจัยได้ค้นพบว่าการเกิดของโรคจอประสาทตาเสื่อมมาจากค่าดัชนีน้ำตาลที่สูงอีกทั้ง Macular หรือจุดกลางรับภาพจอประสาทตานั้นเป็นส่วนที่ไวต่อการมองเห็นมากที่สุด ดังนั้นการบริโภคธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยเป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยให้การเกิดของโรคจอประสาทตาเสื่อมลดลงได้ถึง 8%


ที่มา......http://www.n3k.in.th/

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

เสื้อกันยุงสมุนไพร ภูมิปัญญาของคนไทย


           เสื้อกันยุงสมุนไพร ภูมิปัญญาของคนไทย ... ต้านภัยร้ายจากเจ้าตัวกระหายเลือด วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” กรรมการผู้จัดการบริษัท แนนท์ จำกัด ผู้ประกอบการสิ่งทอครบวงจร หนึ่งในผู้ประกอบการกลุ่มคัสเตอร์สิ่งทอเพชรเกษม จึงร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระทรวงอุตสาหกรรม ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอกันยุงหรือไล่ยุง โดยเน้นการใช้พืชสมุนไพรไทยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและเป็นภูมิปัญญาไทย
          คุณวิศัลย์ บอกว่า บริษัทตนเองเป็นผู้ประกอบการสิ่งทอทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำคือทำตั้งแต่ การคัดเลือกเส้นใย ทอผ้า ย้อมผ้าจนถึงการตัดเย็บออกมาเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่ผ่านมาทำตลาดภายใต้แบรนด์ ไฮโดร-เทค (Hydro-Tech) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตเส้นใยต่าง ๆ ทำให้เสื้อผ้ามีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันรังสียูวี ดูดซับเหงื่อได้ดี แห้งเร็วและปราศจากเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวหนังผ้า และที่สำคัญคุณสมบัติหลักเหล่านี้จะอยู่ถาวรเพราะทำในระดับใยผ้า ส่วนการนำสมุนไพรไทยมาประยุกต์ใช้จะเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมา  สำหรับไอเดียเสื้อผ้ากันยุงกันแมลงนี้ ปัจจุบันต่างประเทศก็มีผลิตภัณฑ์ให้เห็นแต่ใช้สารเคมีเคลือบใยผ้า ก่อปัญหา เรื่องสารตกค้างและเด็กไม่สามารถใช้ได้ ขณะที่สมุนไพรเป็นภูมิ ปัญญาไทยมีหลายหมื่นชนิด ลอกเลียนแบบได้ยาก บริษัทจึงเลือกมาเป็นจุดขาย ซึ่งการทำวิจัยนี้ต้องอาศัยสหวิทยาการ ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ด้านแมลง และด้านสิ่งทอ ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่เป็นเสื้อกันยุงสมุนไพรรายแรกของไทย                   
           งานวิจัยผ่านการทดสอบจากสถาบันวิทยาศาสตร์สาธารณสุขกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แล้วว่าสามารถป้องกันยุงได้จริง โดยทดสอบครั้งแรกสามารถลดอัตราการกัดของยุงได้ถึง 90% และเมื่อนวัตกรรมดังกล่าว เป็นการนำสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติกันยุงมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยผสมผสาน กับเทคโนโลยีไมโครเอนแคปซูเลชั่นMicroencapsulation หรือเทคโนโลยีสำหรับการบรรจุหรือห่อหุ้มสารสำคัญ ในลักษณะแคปซูลระดับไมโคร นำมาประยุกต์ใช้ใน เสื้อผ่านกระบวนการ Finishingเพื่อเก็บกักสมุนไพรกันยุงไว้บนเนื้อผ้า แล้วค่อย ๆ แตกตัวออกมา ต่อไปบริษัทจะทำชนิดเติม คล้ายกับการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพิ่มสารกันยุงในเนื้อผ้า เพราะมีแคปซูลติดอยู่ที่ใยผ้าอยู่แล้ว 
              สำหรับแผนการทำตลาดเบื้องต้นบริษัทนำมาผลิตเป็นเสื้อเหลืองเฉลิมฉลองพระ ชนมพรรษา 80 พรรษาภายใต้แบรนด์ Hydro-Tech วางจำหน่ายต้นเดือนสิงหาคม ที่สยามพารากอน เดอะ มอลล์บางกะปิและเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ราคาตั้งแต่ 380-1,200 บาท ตามคุณสมบัติเพิ่มเติมในเนื้อผ้า นวัตกรรมดังกล่าวช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์เดิมไม่ต่ำกว่า 10%
              อนาคตบริษัทวางแผนขยายตลาดเสื้อกันยุงไปสู่อุตสาหกรรมการแพทย์โดยพัฒนาเป็นชุดคนไข้ในโรงพยาบาล ซึ่งไม่สามารถฉีดสารกันยุง คุณวิศัลย์ บอกว่า เสื้อกันยุงสมุนไพร แค่เป็นตัวนำร่อง เพราะเรื่องสมุนไพรไทยยังมีเรื่องทำได้อีกเยอะ อนาคตอาจจะมีเสื้อสำหรับช่วยเลิกบุหรี่ หรือเสื้อที่สวมใส่แล้วสามารถทำให้กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี ทั้งหมดนี้มีไอเดีย ซึ่งบริษัทได้จัดตั้งเป็นบริษัทวิจัยนวัตกรรมสิ่งทอจำกัดขึ้นรองรับการต่อยอดงานวิจัยต่อไป
นี่คือการยืนยัน นวัตกรรมคือสิ่งจำเป็นในการสร้างความเข้มแข็งให้กับการแข่งขันที่ยั่งยืน ซึ่งคุณวิศัลย์ บอกว่า...ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องใส่เสื้อผ้า นวัตกรรมสิ่งทอก็ยังไม่หยุด...


อยากให้ผมสั้นยาวเร็ว ทำได้ด้วยสูตรสมุนไพรพื้นบ้าน

        
               รู้ไหมว่า  โดยเฉลี่ยแล้วเส้นผมคนเราจะยาวประมาณครึ่งนิ้วต่อเดือน สำหรับคนที่ผมสั้น แล้วอยากให้ผมยาว ดูสวยเร็วๆ วันนี้ Tips สุขภาพ มีวิธีดูแลเส้นผมให้ยาวเร็วขึ้นมาฝากกัน... วิธีการทำก็ไม่ยาก มาดูกันเลยดีกว่า


                หลักจากที่เราสระผมและนวดผมเรียบร้อยแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆ ซับผมเบาๆ แต่อย่าขยี้ผมแรงๆ โดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม

          
                 จากนั้นให้บดกล้วยหอมผสมกับน้ำผึ้ง พอกให้ทั่วทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างอก

          
              หากใครไม่สะดวกวิธีนี้ลองใช้สูตรดอกอัญชันดูก็ได้ค่ะ เพียงนำดอกอัญชันมาคั้นเอาน้ำ จนได้น้ำอัญชันสีน้ำเงินอมม่วงออกมา หลังจากนั้นนำไปหมักผมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะทำให้ผมดูดกดำเงางาม แถมยังยาวเร็วได้อีกด้วย
          แต่ถ้าคุณเป็นคนผมแห้ง ต้องการให้ผมดูเงางาม ลองใช้แฮร์โค้ต ประมาณ 2-3 หยด ชโลมและนวดให้ทั่วศีรษะ แต่ถ้าเป็นคนผมมัน ไม่ควรทำวิธีนี้ และที่สำคัญอย่าลืมที่จะทำทรีทเม้นสัปดาห์ละครั้ง เพราะจะทำให้มีสุขภาพผมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

สมุนไพรรักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน


            อาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นกลไกที่ร่างกายกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารออกทางปาก มีสาเหตุมากมาย ทั้งที่ไม่รุนแรง เช่น รับประทานอาหารมากเกินไป อาหารไม่ย่อย เป็นต้น จนถึงรุนแรงมาก เช่น ความผิดปกติของสมอง เลือดออกในสมองจากอุบัติเหตุ โรคตับอักเสบ กระเพาะอาหารอุดตัน ไส้ติ่งอักเสบ ติดเชื้อในทางเดินอาหารอย่างแรง เป็นต้น อาการอาเจียนที่สามารถใช้สมุนไพรได้ คือ เมารถ เมาเรือ อาหารไม่ย่อย หรือโรคที่ได้รับการวินิจฉัยและอยู่ในความดูแลของแพทย์ เช่น อยู่ระหว่างการรักษามาลาเรีย เป็นต้น 


กะเพรา  ยอดสด 1 กำมือ ต้มพอเดือด ดื่มเฉพาะส่วนน้ำ 


ขิง  ใช้เหง้าสดขนาดนิ้วหัวแม่มือ ต้มกับน้ำ หรือใช้ผงขิงชงน้ำดื่ม


ยอ   ผลดิบแก่ให้ฝานผลเป็นชิ้นบางๆย่างไฟหรือคั่วให้เหลืองกรอบ ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม 
ต้มหรือชงดื่มน้ำร้อน จิบบ่อยๆ



เครื่องดื่มสมุนไพร


         กินอยู่อย่างไทย ตามแบบภูมิปัญญาไทยเพื่อบำรุงสุขภาพ โดยใช้สมุนไพรหรือผักผลไม้ที่หาได้ไม่ยากในวิถีชีวิตแบบ ไทย ๆ นำมาปรุงแต่งให้เป็นเครื่องดื่ม โดยยังคงคุณค่าตัวยาในการส่งเสริมสุขภาพหรือรักษาโรคไว้เช่นเดิม น้ำดื่ม สมุนไพ คือส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย พร้อมกับพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรเพื่อให้ยั่งยืนคู่สังคมไทย และสภาพแวดล้อมไทย ๆ ต่อไป


น้ำมะละกอ
สรรพคุณ  ช่วยย่อยอาหารระบายท้อง แก้ท้องผูก
วิธีทำ  นำมะละกอสุกมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่น ใส่น้ำตาลทรายแดงและเกลือป่น นิดหน่อย ใส่น้ำแข็ง ปั่นให้ละเอียด ดื่มได้เลย

น้ำส้มจี๊ด
สรรพคุณ  แก้ไข ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ ลดความกระหายน้ำ ชุ่มชื่มคอ
วิธีทำ  นำผลส้มจี๊ดที่แก่จัดแต่ยังไม่สุก นำไปล้างน้ำให้สะอาด ผ่าออกแล้วบีบเอาแต่น้ำปั่นกับน้ำต้มสุก เติมน้ำเชื่อม และ เกลือป่นชิมรสตามต้องการ ใส่น้ำแข็งรับประทาน

น้ำขิง
สรรพคุณ  แก้ท้องเฟ้อ ท้องอืด ทำให้เจริญอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับลมได้ด้วย
วิธีทำ  นำขิงแก่มาล้างให้สะอาด แล้วทุบให้แตกใส่หม้อต้มกับน้ำสะอาด ปล่อยให้เดือดและเคี่ยวไปสักพัก จนขิงละลายน้ำเห็น เป็นสีเหลืองอ่อน เคี่ยวต่อไปอีกสัก 15 นาที ก็ยกลงแล้วใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป คนให้เข้ากัน ใช้ดื่มร้อน ๆ ก็แจ่มใส หรือจะใส่น้ำแข็งดื่มก็ชื่นใจ

น้ำตะไคร้
สรรพคุณ  แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ
วิธีทำ  ใช้ตะไคร้ทั้งราก และใบมาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วเอามาทุบให้แตกและตัดเป็นท่อน ๆ ใส่ลงไปในหม้อน้ำ ต้มจนเดือด และเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ จนเห็นน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ใส่เกลือลงไปและเคี่ยวต่อไป อีกสักพักจึงยกลงและนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง เสร็จแล้วนำแต่น้ำตะไคร้ต้มต่อไปอีก ใส่น้ำตาลทรายแดงและเคี่ยว ต่อจนน้ำทรายละลาย ยกลงและใส่น้ำแข็งรับประทานได้

น้ำหญ้าหนวดแมว
สรรพคุณ  ลดอาการปวดเมื่อย รักษาโรคไต ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา
วิธีทำ  นำหญ้าหนวดแมวมาล้างทำ ความสะอาด สับเป็นท่อนทั้ง ต้น ใบ ดอก รวมกันตากให้แห้งเสร็จแล้วเอาไปคั่ว เวลาจะรับ ประทานก็นำมาต้มจนเดือดเพื่อให้คุณค่าในหญ้าหนวดแมวออกมา เสร็จแล้วใช้ดื่มเป็นน้ำชาอุ่น ๆ

น้ำชะพลู
สรรพคุณ  แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
วิธีทำ  นำรากกับต้นชะพลูมาล้างให้สะอาด เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากแดดให้แห้ง เสร็จแล้วเอามาต้มกับน้ำตามสัดส่วนที่ ต้องการต้มและเคี่ยมจนน้ำงวดลง ก็เอาไปดื่มเป็นน้ำสมุนไพรได้

น้ำสับปะรด
สรรพคุณ  ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ
วิธีทำ  นำเนื้อสับปะรดมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำตาลทรายแดง เกลือป่นน้ำแข็งทุบ เสร็จแล้วปั่นให้ละเอียด เทใส่แก้วรับประทานได้เลย

น้ำมะระขี้นก
สรรพคุณ  เป็นยาเจริญอาหาร และแก้โรคเบาหวาน
วิธีทำ  นำมะระขี้นกมาล้างให้สะอาด ผ่าซีกเอาเมล็ดออกไปให้หมด หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นำไปตากให้แห้งสนิท เวลารับประทานให้ นำไปต้มน้ำเดือด ปล่อยให้ตัวยาละลายออกมา ใช้ดื่มเป็นชาได้อย่างวิเศษ (หากกลัวรับประทานยากเพราะขม มีวิธีแก้คือ เอาใบเตยหอมมาหั่นเป็นท่อนตากแห้ง แล้วเอามาคั่วให้เหลืองกรอบ จึงนำไปชงพร้อมกับมะระ จะกลบความขมของมะระขี้นกได้

น้ำองุ่น
สรรพคุณ  แก้กระหายน้ำ รักษาโรคหนองใส ปัสสาวะขัด เจ็บ
วิธีทำ  ใช้องุ่นม่วง ล้างให้สะอาดแช่น้ำไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง นำขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำผ่าครึ่ง เอาเมล็ดออก นำเนื้อองุ่นไปต้มและ เคี่ยวให้เปื่อย กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำตาลเกลือป่น ตั้งไฟต้มจนน้ำตาลทรายละลายเป็นใช้ได้ ใส่น้ำแข็งรับประทานชื่นใจ

น้ำแคนตาลูป
สรรพคุณ  บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ ขับน้ำนม บำรุงหัวใจ สมอง แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ แก้กระหาย ดับพิษร้อน
วิธีทำ  นำแคนตาลูปสุกหั่นเป็นชิ้นใส่เครื่องปั่น โดยใส่น้ำต้มสุกลงไปด้วย ใส่น้ำเชื่อม เกลือและน้ำแข็ง ใส่และปั่น ดื่มเย็นใจ

น้ำมะระจีน
สรรพคุณ  แก้ตับ ม้ามพิการ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ แก้ปวด ตามข้อ ตามเข่า
วิธีทำ  ให้มะระจีนผลใหญ่ ล้างให้สะอาด เอาไส้และเมล็ดออก หั่นเอาแต่เนื้อใส่เครื่องปั่นเติมน้ำสุก ปั่นให้ละเอียด กรองเอา แต่น้ำแล้วเติมน้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมรสตามต้องการ เวลาดื่มใส่น้ำแข็งบด   ดื่มแล้วชื่นใจ

น้ำสมุนไพรแต่ละชนิดนั้นทำไม่ยากเลย นอกจากคลายร้อนแล้ว ยังมีประโยชน์อีกต่างหาก

ฟักทอง สรรพคุณทางยาเพื่อสุขภาพ

          ฟักทอง   ถือเป็นพืชในตระกูลมะระชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะแล้วจะมีสีเขียวสลับเหลือง ผิวไม่เรียบขรุขระเปลือกมีลักษณะแข็ง เนื้อในสีเหลืองมีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลืองนิ่มพร้อมกับเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่ ประโยชน์ของฟักทองนั้นมีมากมายสามารถนำมาใช้กินบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้ดี



ประโยชน์ของฟักทอง
          สรรพคุณทางยาของฟักทอง
- เมล็ดสามารถขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกายได้ดี
- ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่นได้
- น้ำมันจากเมล็ดบำรุงประสาทได้ดี
- เยื่อกลางผลสามารถนำมาพอกแก้อาการฟกช้ำ ปวด อักเสบ

          ประโยชน์ของฟักทองทางโภชนาการ
- เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
- ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
- ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
- เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน
   
          เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง ในเมล็ดฟักทองมีสารชื่อ คิวเคอร์บิติน (cucurbitine) ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี วิธีใช้ให้เตรียมเมล็ดฟักทองประมาณ 60 กรัม ทุบให้แตกละเอียดนำมาผสมกับน้ำตาล นม และน้ำเติมลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง ห่างกันทุก 2 ชั่วโมงจะฆ่าพยาธิตัวตืดได้ หลังจากนั้นให้ยาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ควรรับประทานยาระบายน้ำมันละหุ่ง 2 ช้อนโต๊ะช่วยในการขับถ่าย

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

เพชรสังฆาต กับ ริดสีดวงทวาร !!!




คุณประโยชน์ของ ฟ้าทะลายโจร


             ฟ้าทะลายโจร

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculaga Wall. Ex. Ness


           ลักษณะ : ฟ้า ทะลายโจร เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ ๗๐ ซม. ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ใบมีสีเขียวเข้ม ขนาดกว้าง ๑-๓ ซม. ยาว ๓-๑๒ ซม. รูปร่างเรียวยาว ปลายแหลม ดอกขนาดเล็กสีขาว ด้านในมีกระสีม่วงแดง ฝักแขนคล้ายฝักต้อยติ่ง ทุกส่วนของฟ้าทะลายโจร มีรสขมจัด พืชชนิดนี้เป็นสมุนไพรพื้นเมืองของจีน มานานแล้ว โดยชาวจีนใช้ในการรักษาอาการเจ็บคอ ไข้ทอนซิลอักเสบ และในประเทศอินเดีย ใช้เป็นยาขมเจริญอาหาร รักษาอาการท้องร่วง
           ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ
           รสและสรรพคุณยาไท : รสขมจัด
           คุณประโยชน์ด้านการแพทย์ : ใบฟ้าทะลายโจร มีสารกลุ่ม diterpene lactone หลายชนิด ที่สำคัญและมีปริมาณสูง คือ Andrographolide, 14-deoxy-11, 12-didehydro andrographolide, neo-andrographolide and deoxy andrographolide-19-B-D-glucoseฟ้า ทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีการศึกษาสรรพคุณแล้ว พบว่า สามารถรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิดมีเชื้อ ได้ผลใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และฟ้าทะลายโจร ยังสามารถลดอาการไข้ และเจ็บคอในผู้ป่วยได้
            การเตรียมยาและการใช้ : ป็น ไข้ ใช้ใบสด ๒๕ กรัม หรือ ใบแห้ง ๓ กรัม ต้มนานราว ๑๕ นาที อาการท้องเสีย ใช้ใบสด ๒๕-๗๕ กรัม หรือใบแห้ง ๓-๘ กรัม ต้มน้ำดื่มวันละ ๒ ครั้ง หรือทำเป็นแคปซูลขนาด ๕๐๐ มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๔ ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน อาการเจ็บคอ รับประทานแบบแคปซูล เม็ดละ ๕๐๐ มิลลิกรัม ครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๔ ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
             คำเตือน : สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อรุนแรง มีไข้สูง หนาวสั่น ในเด็กเล็กและคนสูงอายุ และผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจ ควรใช้อย่างระมัดระวัง บางคนอาจมีอาการแพ้ยา เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ปวดเอว เวียนหัว ให้หยุดยาแล้วเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น